Resume คือเอกสารที่ที่บ่งบอลช้อมูลของตัวเราแบบคร่าวๆ ในด้านการทำงานและการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการค้นคว้าวิจัย หรือฝึกงาน อบรมต่างๆ ข้อมูลพวกนี้ล้วนเป็นข้อมูลจากประสพการณ์การทำงาน ทั้งด้านความสามารถและทักษะต่างๆ ที่ได้สะสมมาโดยเป็นการระบบลงไปสั้นๆ ขอสังเขลป เพื่อประกอปการตัดสินใจในการรับสมัครงาน
Resume แบ่งออกเป็น 3 แบบ
- แบบเน้นประสบการณ์ในการทำงาน (Chronological Resume)
- แบบเน้นทักษะ ระบุความชำนาญ ความสามารถของตัวเอง (Functional Resume)
- แบบผสมผสาน (Combination Resume)
Chronological Resume
Chronological Resume จะเน้นไปที่ให้ความสำคัญตามลำดับเหตุการณ์สำคัญ ซึ่งหลักการเขียนจะเอาเหตุการล่าสุดมาก่อน ยกตัวอย่าง เหตุการณ์ล่าสุดพึ่งจบจากที่ไหนมา หรือทำงานบริษัทล่าสุดจากที่ไหน ซึ่งการเขียนแบบ Chronological Resume เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เหมาะสำหรับคนที่กำลังจะปรับเปลี่ยนงานไปในตำแหน่งที่สู่งขึ้น

Functional Resume
จะเป็นการเขียนเรซูเม่ที่เน้นทักษะ การระบุความสามารถในตัวบุคคลว่าคุณสามารถทำอะไรได้บ้าง เชี่ยวชาญด้านไหนเป็นพิเศษ ส่วนประวัติอื่นๆ ก็จะคล้ายๆกัน ไม่ว่าจะเป็นประสพการณ์ทำงานก่อนหน้านี้ แต่อาจจะไม่ได้ลงลายละเอียดลึกแต่อย่างใด
สำหรับใครที่ไม่ได้ทำงานต่อเนื่อง หรืออาจจะเว้นระยะไปบ้าง ไม่แนะนำให้เขียนแบบ Chronologocal เพราะการเขียนแบบนี้จะเหมาะกว่าสำหรับคนที่มีทักษะและความสามารถค่อนข้างสูง แต่บางครั้งอาจจะเว้นระยะห่างจากการทำงานซึ่งไม่ได้ทำต่อเนื้อ แต่ถ้างานที่ไม่ได้ใช้ประสพการณ์ แต่เน้นทำงานได้ มีความสามารถที่เหมาะสมกับตำแหน่งงานที่เขากำลังจะรับ การเขียนเรซูเม่แบบนี้ตอบโจทย์ได้ดีกว่าแน่นอน

Combination Resume
คือการเขียนแบบผสมผสานระหว่าง Fuctional และ Chronologocal เป็นการเขียนเรซูเม่สำหรับคนที่มีความรู้ความสามารถ มีการทำงานในระดับขั้นสูง ซึ่งผ่านการทำงานมาอย่างโชกโชน ประสพการณ์แน่นปึก ใครที่เขียน resume ลักษณะนี้จะอยู่ในระดับ manager ซึ่งเป็นผู้นำคอยนำทีมน้องๆ หรือ manage งานได้หลากหลาย
สำหรับใครที่มีประสพการณ์การทำงานเป้นเวลานาน และมีความรู้ความสามารถเพียบพร้อม งานที่ต้องเราต้องการอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม หมั่นหาความรู้ เพิ่มพูนประสพการณ์การทำงานให้เยอะๆ เพราะผู้รับสมัครก็คาดหวังที่จะได้คนที่มีความรู้ มีทักษะและประสพการณ์มาช่วยขับเคลื่อนมาบริษัทเช่นกัน
